เรื่องราว ของ Steve Jobs

เรื่องราว ของ Steve Jobs  จะเป็นหนึ่งในผู้นำเสมอเมื่อพูดถึงคนที่ก้าวหน้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เขาเป็นนักประดิษฐ์ที่ชาญฉลาด ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ เขาร่วมก่อตั้ง Apple กับ Steve Wozniak ตั้งแต่เริ่มต้น และทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

แต่ชายที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างล้นหลามของ Apple ถูกคณะกรรมการบังคับให้ออกจากบริษัทที่เขาสร้างขึ้น แต่แล้วเขาก็ร่วมก่อตั้งอีกสองบริษัท หนึ่งในนั้นคือสตูดิโอแอนิเมชั่น Pixar อันเป็นที่รัก และในที่สุด เมื่อสิ่งต่าง ๆ เลวร้ายที่ Apple เขาก็พลิกกลับและทำให้มันดีอีกครั้ง

ในปี 1976 Steve Jobs และ Steve Wozniak ร่วมมือกันก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีชื่อ Apple โดยมีเป้าหมายในการสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคุณภาพสูง อย่างไรก็ตาม หลังจากทำงานมา 9 ปี เขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้น คำถามที่หลายคนถามคือ “บริษัทจะกำจัดคนที่สร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร”

คำตอบคือ “จ็อบส์ไม่ได้มีอำนาจในเวลานั้น” เขาไม่ใช่ CEO ของบริษัท จนกว่าคุณจะโดนไล่ออกและกลับเข้ามาใหม่ Jobs อายุเพียง 21 ปีเมื่อเขาก่อตั้ง Apple นักลงทุนและผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนในสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี (ยังคลุมเครือมากในตอนนั้น (ยังใหม่ และหลายคนไม่เข้าใจ) การหาเงินทุนและสร้างความไว้วางใจนั้นยากยิ่งกว่าเมื่อ CEO เป็นมือใหม่ในวัย 20 ปี กลายเป็น เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Apple ได้ว่าจ้างนักธุรกิจที่มีประสบการณ์ชื่อ Michael Scott เป็น CEO

จุดเริ่มต้น เรื่องราว ของ Steve Jobs

เรื่องราว ของ Steve Jobs  แน่นอน เมื่อทำเช่นนี้ในไม่ช้า Jobs ก็สามารถอุทิศเวลาของเขาเพื่อนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดได้ ไม่ต้องกังวลกับการดูแลบริษัทของคุณ แต่ในขณะเดียวกันอำนาจในการตัดสินใจก็ลดลงเช่นกัน และแน่นอน ไล่เขาออก

แต่สก็อตต์อยู่ได้ไม่นาน เขาไม่ได้ไล่ Jobs ออกจาก Apple แต่ John Sculley ชายที่ Jobs เสนอให้เขาเป็น CEO ของ Apple จ็อบส์สนใจสกัลลีเพราะประวัติอันน่าทึ่งของเป๊ปซี่ที่พลิกขาดทุนปีละ 70 ล้านดอลลาร์เป็นกำไรปีละ 40 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่ปี Scully ได้สร้างชุดแคมเปญการตลาดที่ยอดเยี่ยมซึ่งทำให้ Pepsi เป็นคู่แข่งกับ Coke มาอย่างยาวนาน

Jobs เห็นความสามารถของ Scully และรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ Apple ต้องการ และพยายามเกลี้ยกล่อมเขาหลายครั้ง แต่ Scully ปฏิเสธมาโดยตลอด จนกระทั่งในปี 1983 Jobs ได้ Scully มาทำงานเป็น CEO ของ Apple ในที่สุด “คุณอยากขายน้ำเชื่อมต่อไปตลอดชีวิต หรืออยากเปลี่ยนโลกไปพร้อมกับผม” เขายังคงพยายามที่จะเปลี่ยนโลกของเขาเอง

สถานการณ์ของ Apple ในเวลานั้นเรียกได้ว่าพลิกผันและมีอุปสรรคมากมาย ไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้เช่น Apple 2 ที่เปิดตัวเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ Jobs ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น นั่นคือ Lisa (เขายอมรับในภายหลังว่าตั้งชื่อตามลูกสาวของเขา) แต่ด้วยนวัตกรรมนี้ก็ทำให้ราคาขายสูงขึ้นเช่นกัน โดย Lisa หนึ่งเครื่องมีราคาประมาณ 10,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 350,000 บาท ถือว่าสูงมากสำหรับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลิซ่าขายได้ประมาณ 10,000 ตัวเท่านั้น

จบกันที่ ‘Macintosh’

ในปีต่อๆ มา จ็อบส์ยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ค้นหาสูตรสำเร็จในอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีของ Lisa ในราคาย่อมเยา จนออกมาเป็นเครื่อง Macintosh ซึ่งมีราคาถูกลงและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปัญหาคือขายได้เท่าไหร่ กลายเป็นการโต้เถียงกันนานหลายเดือนระหว่างสกัลลีและจ็อบส์ จ็อบส์ต้องการขายในราคา 2,000 ดอลลาร์ และสกัลลีบอกว่าเขาต้องขายในราคา 2,500 ดอลลาร์เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการทดสอบและพัฒนา โดยขายในราคา 2,000 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม หลังจากการอภิปรายมาก คณะกรรมการเห็นด้วยกับสกัลลี ฉันตัดสินใจขาย Macintosh ในราคา 2,500 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาเริ่มต้นนั้นยอดเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตามความนิยมลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนแห่กันไปที่คอมพิวเตอร์ของ IBM เพราะมีราคาถูกกว่า แม้ว่า Macintosh เองจะมีเทคโนโลยีที่ดีกว่าก็ตาม Macintosh ก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวเช่นกัน และนั่นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับคณะกรรมการ

ในปี 1985 ปัญหาภายในทวีความรุนแรงขึ้น ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มคบหากันโดยไม่สามารถพบกันได้ จนกว่าเขาจะไปหาคณะกรรมการซึ่งบอกให้สกัลลีควบคุมงานของเขา จ็อบส์ใช้ทรัพยากรของบริษัทมากเกินไป ทั้งเงิน เวลา และทีมงานสร้างคอมพิวเตอร์ที่พังสองเครื่องติดต่อกันอย่างรวดเร็ว

นั่นคือตอนที่จ็อบส์เริ่มได้ยินข่าวลือว่าความรับผิดชอบของเขาที่บริษัทจะลดลง เขาพยายามโน้มน้าวให้เพื่อนๆ ในบริษัททำงานร่วมกับเขาเพื่อถอดถอนคณะกรรมการบริหาร แต่ข่าวกลับไม่เข้าหูสกัลลี ในที่สุด สกัลลีก็เรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วนเรื่องราว ของ Steve Jobs

ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการได้อธิบายให้ Jobs ทราบว่าอำนาจของเขาในบริษัทจะลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของบริษัท คุณไม่สามารถสร้างโครงการใหม่หรือให้พนักงานทำงานแทนเขาได้อีกต่อไป บอร์ดไม่ได้ถูก “ไล่ออก” แต่เหมือนโดน “ไล่ออก” มากกว่า จ็อบส์โกรธมากในเรื่องนี้ ฉันไม่เคยยอมรับข้อเสนอ ขอให้คณะกรรมการลงคะแนนเสียงระหว่างเขาและสกัลลีว่าใครควรเป็นผู้นำของ Apple จ็อบส์แทบไม่เชื่อว่าคณะกรรมการจะโหวตให้สกัลลี จากนั้นเขาก็โกรธ ฉันตัดสินใจออกจากห้องประชุมและออกจากบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้น

ต่อมาจ็อบส์ได้ก่อตั้งบริษัทใหม่สองแห่งคือ NeXT Computer และ Pixar แต่สิ่งต่างๆ ก็ไม่ได้ดีขึ้นสำหรับ Apple หลังจากที่เขาออกไป เรียกว่าวิกฤตแทบล้มละลาย เมื่อ Apple ซื้อกิจการ NeXT Computer ในปี 1997 จ็อบส์ก็กลับมาเพื่อแก้ไขปัญหาและร่วมงานกับบริษัทอีกครั้งในตำแหน่ง CEO เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นใหม่ที่ทำให้ Apple กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งจนถึงทุกวันนี้

ไม่มีทางรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนที่เขาถูกไล่ออก แต่บางทีมันก็เป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้น ในเวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ คณะกรรมการไว้วางใจให้พวกเขาทดลองสร้างคอมพิวเตอร์ของตนเองต่อไป การนำ Apple กลับมามีชีวิตอีกครั้งอาจประสบความสำเร็จ หรืออาจเป็นหายนะที่ดึง Apple ออกจากเหว การออกไปก่อตั้งบริษัทใหม่สองแห่งอาจเป็นสิ่งที่ Apple และตัวเขาเองต้องการ จากประสบการณ์และความสามารถที่เขาจะกลับมาบริหารบริษัทที่เขาสร้างมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็ตาม

ประวัติ Steve Jobs

ผู้นำแห่งศตวรรษที่ 21 อัจฉริยะผู้เปลี่ยนโลกไอที สตีฟ จ็อบส์ ผู้นำธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน การสร้างนวัตกรรมใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ผู้ประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ Mac ผู้สร้าง iPhone iPad และ iPod ซีอีโอที่ยิ่งใหญ่ของ Apple เสียชีวิตแล้วในวันนี้ แต่สิ่งที่เขาสร้างขึ้นยังคงมีอยู่ เปลี่ยนโลกไอทีไปตลอดกาล

Steve Paul Jobs เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ในสหรัฐอเมริกา ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย ชีวิตของเขาไม่ได้สวยงามตั้งแต่แรก พ่อแม่ของเขาทิ้งเขาตั้งแต่แรกเกิด เมื่อเขาเกิด Joan Carol Sieburu แม่ของเขาเป็นนักเรียนและพ่อของเขา Abdulfata Jandari เป็นนักเรียนหนุ่มชาวซีเรีย ผู้ชายที่ไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ในวัยที่ยังไม่พร้อมมีครอบครัว แม่ของเขาจึงรับสตีฟไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมของเขา พอลและคาร์รารา จ็อบส์

เราย้ายไปที่ Mountain View เมื่อเขาอายุได้ 5 เดือน แคลิฟอร์เนีย ฉันเติบโตในพื้นที่ที่เรียกว่าซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทซอฟต์แวร์และไอทีชั้นนำของโลกหลายแห่ง พ่อบุญธรรมของ Steve Jobs ทำงานเป็นช่างเครื่องให้กับบริษัทท่าเรือแห่งหนึ่ง และข้างบ้านของเขามีร้านเล็กๆที่รับซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ฉันเริ่มสอนสตีฟถึงวิธีประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยเหตุนี้เด็กชายจึงเริ่มซึมซับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นอย่างดี แม่ของเขาฝึกให้เขาอ่านและเขียนตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้าเรียน ฉันยังมีเพื่อนบ้านที่เป็นวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง Hewlett-Packard (HP) ซึ่งทำให้ Steve Jobs ได้รับการศึกษามากมายในด้านอิเล็กทรอนิกส์ ถือได้ว่าเป็นทั้งการดูแลสิ่งแวดล้อมและครอบครัว ผลลัพธ์ที่ได้คือ Steve Jobs ตำนานแห่งวงการไอทีในปัจจุบัน

Steve Jobs เริ่มเข้าเรียนที่ Cupertino Middle School และ Homestead High School ในแคลิฟอร์เนีย ฉายแววความเฉลียวฉลาดตั้งแต่เด็กจนขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ประถมศึกษาปีที่ 4) ครูโรงเรียนแนะนำให้โดดเรียนไปชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7 และระหว่างที่เรียนอยู่ที่นี่ได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาที่ Hewlett-Packard และเมื่อ Steve Jobs ได้มีโอกาสพบกับ CEO CEO ของ HP ก็ทึ่งในความรู้ความสามารถของเขา ในขณะที่ตอบคำถามเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จนเป็นที่พอใจของ CEO เขาจ้าง Steve Jobs มาฝึกงานที่บริษัท พวกเขายังทำงานร่วมกับ Steve Wozniak รุ่นพี่จาก Homestead High School ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งในตำนานของ Apple

หลังจากจบการศึกษาจาก Homestead High School ในปี 1972 เขาเข้าเรียนที่ Reed College ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน เมื่อเทียบกับอาชีพและการดำรงชีวิตของพ่อแม่บุญธรรมแล้ว มันก็แค่งานทำเงิน แต่เขาตัดสินใจนำเงินมารักษาชีวิตของเขา , สตีฟเลิกเรียนทุกวิชา ยกเว้นวิชาพิมพ์ เพราะเขารู้สึกว่าไม่มีทางที่เขาจะอยากทำจริงๆ ศึกษา. เขาคุ้นเคยกับตัวอักษรชื่อ serif และ sans serif แต่ไม่รู้ว่าเขาเรียนรู้อะไรจากมัน เขาไม่เพียงชอบเรียนเท่านั้น และในขณะที่เขาเลิกเรียนมหาวิทยาลัย เขาขออาศัยอยู่ที่หอพักของเพื่อน และหาเลี้ยงชีพด้วยการขออาหารฟรีเป็นประจำที่วัด Hare Krishna เรื่องราว ของ Steve Jobs

บทความที่เกี่ยวข้อง